• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

⚡เจาะสำรวจดิน🦖 สิ่งจำเป็น ✨แต่คนมองข้าม ทำไมต้องเจาะสำรวจดิน?📌

Started by Hanako5, Jul 30, 2024, 03:51 AM

Previous topic - Next topic

Hanako5

🥇✅✅โดยปกติแล้วเมื่อท่านทำการก่อสร้างบ้านหรืออาคาร👉 ถ้าท่านไม่ใช่วิศวกรส่วนใหญ่ก็จะทำตามแนวทางที่ผู้รับเหมาก่อสร้างแนะนำ👉 แต่ผู้รับเหมาบางราย🦖ต้องการลดค่าใช้จ่าย🎯 (ผมขอย้ำว่าบางราย ไม่ใช่ทุกรายนะครับ📌) ก็จะตัดการทดสอบที่ตนเห็นว่าไม่จำเป็นออกไป👉 ซึ่งสิ่งแรก ๆ ที่มักถูกตัดออกคือการเจาะสำรวจดิน🥇 ในบทความนี้จะอธิบายความสำคัญของการเจาะสำรวจดินก่อนการก่อสร้าง🦖 ว่าไม่ควรมองข้ามและมีประโยชน์อย่างไร🎯



👉📢🌏🛒ความสำคัญของการเจาะสำรวจดิน🛒✅👉📢⚡

1. ทำให้เราทราบประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง🦖 เพื่อประเมินลักษณะเชิงกล🌏 เพื่อเลือกฐานรากที่เหมาะสม🌏 หากดินแข็งพอ อาจเลือกใช้เป็นฐานแผ่🥇
2. เพื่อทราบความลึกของชั้นดินแข็ง🛒 ว่าอยู่ลึกลงไปเท่าไร เพื่อจะได้คำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม🦖 และการประเมินความยาวเสาเข็มที่เหมาะสม✅
3. การลดข้อผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม📌 หากพบชั้นดินแข็งที่ไม่หนาในความลึกที่น้อย✨ อาจทำให้หยุดตอกเสาเข็มเพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็ง✨ แต่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้หากเข่นลงไปอีกซักพัก✨
4. หากดินในบริเวณสำรวจมีความผันผวนสูง✨ วิศวกรอาจสั่งให้เจาะสำรวจดินหลาย ๆ หลุมเพื่อเปรียบเทียบ⚡ อาจต้องออกแบบฐานรากหลายแบบเพื่อก่อสร้างอาคารในบริเวณนั้น✅

📢🌏⚡🎯ประเภทของการเจาะสำรวจดินที่นิยมใช้✨✨🥇🛒⚡

1. การใช้เครื่องเจาะ Motorized Drilling Rig🌏
เครื่องเจาะที่เคลื่อนย้ายสะดวก🎯 อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าบรรดาหน่วยเจาะสำรวจดิน✨ ว่ากันด้วยเรื่องของความง่าย🥇 และรวดเร็วในการติดตั้ง✅ ทำให้งานเจาะสำรวจดินเสร็จเร็วขึ้น ในที่นี้ขอกล่าวถึง การเจาะสำรวจดินแบบฉีดล้าง (Wash Boring)👉 ก็จะเป็นในลักษณะของการใช้เครื่องสูบน้ำและหัวกระทุ้ง (Chopping Bit)⚡ ต่อจากก้านเจาะ🦖 ปลายบนต่อกับหัวหมุน🌏 ซึ่งจะต่อไปยังเครื่องสูบน้ำขณะทำการกระทุ้งดินด้วยเครื่องกว้าน👉 จะทำการฉีดน้ำผ่านรูก้านเจาะ🌏 น้ำที่ฉีดจะไหลวนขึ้นมาพร้อมกับเศษดิน ซึ่งจะมาตกในบ่อน้ำวน จนได้ความลึกที่ต้องการเก็บตัวอย่าง
การเจาะตลอดความลึกของหลุมเจาะ ในชั้นดินเหนียวอ่อน⚡ หลุมเจาะจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วและลดลงเหลือ 3 นิ้ว ในดินแข็ง🌏 ระหว่างดำเนินการเจาะสำรวจดินก็ต้องมีการฝัง ท่อป้องกัน📢 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้วลงไปจนถึงชั้นดินแข็ง🛒 เพื่อป้องกันการพังทลาย👉 และใช้ Bentonite Slurry📢 ช่วยป้องกันการพังในชั้นทราย🎯 ทำการเจาะจนถึงชั้นดินแข็งที่มีค่า SPT-N > 50✨

2.การใช้เครื่องเจาะแบบ Rotary Drilling📌
สามารถเจาะสำรวจดินได้กับทุกสภาพชั้นดิน🎯 เป็นลักษณะของเครื่องเจาะสำรวจดินที่มีประสิทธิภาพสูง📢 ด้วยระบบไฮดรอลิก🦖 เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนแรงงานคน👉 สามารถเจาะสำรวจดินแบบทะลุทะลวงได้ลึกเกินกว่า 40 เมตร🦖 โดยใช้เครื่องยนต์ Rotary Drilling Rig🦖 ที่ส่งกำลังแรงปั่นหัวเจาะลงไปลึก ๆ และอยู่ในระดับความเร็วที่ต้องการ⚡ ดินจะถูกปั่นขึ้นมาตาม (flight auger)🎯
วิธีนี้เครื่องยนต์จะใช้กำลังบิดหัวเจาะมาก✨ ดังนั้นจึงมักเจาะสำรวจดินลงไปในช่วงสั้น ๆ เช่น 1.5 เมตร🌏 แล้วยกหัวเจาะขึ้น เพื่อนำดินออก🌏 แล้วจึงนำไปเจาะต่ออีก 1.5 เมตร🥇 จึงสามารถตรวจลักษณะชั้นดินได้ตลอดความลึก⚡ การใช้หัวเจาะร่วมกับการเจาะแบบฉีดล้าง⚡ หรือการเจาะด้วยความเร็วสูง📢 ทำให้ตัดดินขาดออก พร้อมทั้งปล่อยน้ำ🛒 โดยใช้แรงดันน้ำจากปั๊มน้ำแรงดันสูง🎯 เพื่อพาดินขึ้นมาที่ผิวดิน🥇 เศษดินและหินถูกส่งขึ้นมาพร้อมน้ำจากหัวเจาะ📌 ในดินแข็งหลุมจะไม่พังทลาย✅

แต่ในดินแบบ soft clay หรือ sand📢 ต้องใช้ท่อเหล็กป้องกันการพังทลาย✨ หรือไม่ก็ต้องใช้ drilling mud (ส่วนผสมของน้ำกับสาร Bentonite)⚡ ผสมลงในน้ำที่ฉีดลงไปในหลุมเจาะ เพื่อป้องกันการพังทลาย👉 นอกจากจะทำให้ผนังและหลุมเจาะไม่พังแล้ว ยังช่วยพาเอาวัสดุเม็ดใหญ่จากก้นหลุมขึ้นมาด้วย⚡ เป็นเหตุให้หลุมเจาะสะอาด ในกรณีพบหินแข็งต้องเป็นหัวเจาะเพชรเพื่อกัดลงในชั้นหินให้ได้พร้อมเก็บตัวอย่างแท่งหิน🦖 จึงเรียกว่า การเจาะหิน (Rock Coring)🦖